อัณฑะอักเสบ ไม่ใช่แค่อัณฑะอักเสบแต่ส่งผลให้ มีลูกยากอีกด้วย
อาการของ อัณฑะอักเสบ คือจะพบการปวดบวมแดงที่บริเวณลูกอัณฑะ ไม่ข้างใดก็ข้างหนึ่ง หรือบางคนอาจจะเป็นทั้งสองข้าง ซึ่งมีโอกาสไม่น้อยที่จะอักเสบที่ท่ออสุจิร่วมด้วย ปวดบริเวณขาหนีบ หรือเจ็บหน่วงๆที่อัณฑะ หากมีอาการแบบนี้แล้วภายใน 2 วันไม่หายหรือดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการโดยเร็ว หากปล่อยไว้นานๆแล้ว อาจจะรู้สึกแสบเวลายิงกระต่าย ต่อมน้ำเหลืองตรงขาหนีบโต บางคนอาจมีอาการไข้สูง คลื่นไส้อาเจียนหรือบางครั้งอสุจิก็เป็นเลือด ร่วมด้วย
สาเหตุหลักของโรคอัณฑะอักเสบ
- อัณฑะติดเชื้อไวรัส ซึ่งพบได้ในหมู่วัยรุ่น จะมาจากไวรัสคางทูม (Mumps Virus) ซึ่งผู้ป่วยคางทูมกว่า 20 – 30% มีสิทธิ์เป็นโรคอัณฑะอักเสบร่วม
- อัณฑะติดจากแบคทีเรีย จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อโรคหนองใน โรคหนองในเทียม โดยมักจะมีอาการร่วมกับถุงอสุจิอักเสบ และมักจะพบกับหนุ่มๆวัย 19 – 35 ปี
- อัณฑะติดจากแบคทีเรีย จากโรคร้ายอื่นๆ ที่จะพบได้บ่อยๆคือ โรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ หรือบางคนอาจพบในเชื้อวัณโรค
- อัณฑะติดเชื้อ อาจะเป็นโรคภูมิคุ้มกันโรคต่ำ (ติดเชื้อ HIV)
- อัณฑะอักเสบ แบบไม่ติดเชื้อ เช่นในโรคหลอกเลือดอักเสบ หรือเกิดจากอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการทานยาบางชนิด
วิธีการป้องกันจากโรคอัณฑะอักเสบ
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรค คางทูมตั้งแต่เด็กๆ
- ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันตัวเองจากโรค
- เลี่ยงการใช้ยาอย่างพร่ำเพรื่อ โดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพื่อลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงจากยาต่างๆ
- เมื่อรู้ตัวว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
*** บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้